ครูหนุ่มน้อยใจพ่อ เขียน จม.ขอมอบชีวิตคืนให้ ก่อนผูกคอดับ


น่าเสียดาย ครูหนุ่มจบใหม่ น้อยใจพ่อ เขียนจดหมายลาตาย ข้อความบ่งบอกถึงความน้อยใจ ขอมอบชีวิตคืนให้ ก่อนไปผูกคอในห้องน้ำหลังบ้าน ไปเจอกลายเป็นศพตายนานหลายชั่วโมง คนรู้จักบอกไม่น่าเลย...
วันที่ 6 มิ.ย.59 ร.ต.อ.ดิเรก โชคบัญฑิต สว. (สอบสวน) สภ.หนองหิน จ.เลย ได้รับแจ้งมีเหตุคนผูกคอตายที่บ้านหลังหนึ่ง พื้นที่หมู่ 13 ต.หนองหิน อ.หนองหิน จึงประสานไปยังแพทย์ รพ.หนองหิน กู้ภัยสว่างคีรีธรรม จุดหนองหิน ไปชันสูตรพลิกศพ
ที่เกิดเหตุภายในห้องน้ำหลังบ้านหลังดังกล่าว พบผู้เสียชีวิตเป็นชายหนุ่ม ทราบว่าชื่อนายณรงค์ชัย ชัยแสน อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 14 ต.หนองหิน อ.หนองหิน จ.เลย ใช้ผ้าสีแดงผูกคอกับขื่อในห้องน้ำ เจ้าหน้าที่จึงปลดนำร่างลงมา พบเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4-5 ชั่วโมง และที่บนโถส้วมพบจดหมายลาตาย 1 ฉบับ เขียนถึงพ่อทำนองตัดพ้อด้วยความน้อยใจ ข้อความว่า
"แต่ก่อนพ่อเป็นคนมีเหตุผล แต่เกิดมาไม่เคยสิตีสิฆ่า แต่มื้อคืนนี้พ่อกลับมาเฮ็ด คือคนมีเหตุผล กลับมาขอชีวิตที่พ่อมอบให้นนท์คืน ในเมื่อพ่อเป็นคนสร้างนนท์ขึ้นมา นนท์ก็บ่ได้เสียดายเลย ที่มอบชีวิตคืนให้ เมื่อพ่อต้องการมันคืน มื้อคืนพ่อขอมันคืนแล้ว ถึงเวลาที่นนท์จะต้องมอบให้ รักและคิดถึงทุกคนเสมอ (อานนท์)"
จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา พ่อของผู้ตาย ได้มาพูดคุย และเกิดโต้เถียงกับลูกชาย จนกระทั่งเช้าไม่คิดว่าลูกชายจะน้อยใจจนถึงขนาดผูกคอตาย ส่วนผู้ตายเพิ่งเรียนจบครูมา อยู่ระหว่างเป็นครูฝึกหัดที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งคนรู้จักต่างบอกว่า ไม่น่ามาคิดสั้นผูกคอตายอย่างนี้เลย.  









เทคนิคการขายสินค้าบนเฟสบุคโดยไม่ต้องลงทุน


"การขายสินค้าบนFacebook โดยไม่ต้องลงทุน"นั่นเอง 

เพื่อนๆเคยได้ยินคำนี้ไหมครับ? ที่เขาบอกว่า "วันนี้เราจะมีอะไรมันไม่สำคัญ แต่มันสำคัญที่เราจะสร้างอะไรจากสิ่งที่เรามี"มันก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นของแนวคิดนี้ครับ เพราะเพื่อนๆหลายคนที่มาคุยกับผมมักจะกังวลว่า ถ้าไม่มีเงินทุนเอาไปทุ่มให้กับการ ลงโฆษณา Facebook เราจะสู้คนอื่นได้เหรอ? ผมบอกได้เลยว่า สู้ได้ครับ ก็อาศัยสิ่งที่เรามีนี่แหละ
อะไรที่เรามีบนFacebook ?
 1.Facebook โปรไฟล์ หรือหน้า Time line ของเรานั่นเอง เป็นเครื่องมือที่ฟรีและดีที่สุด เพราะเราจะมีฐานลูกค้าติดตัวมาตั้งแต่แรกเลยนั่นคือเพื่อนๆของเราในเฟสบุคนั่นเองครับ การสร้างความหน้าเชื่อถือบน Facebook สำคัญมากเลย เพราะปัญหาที่สำคัญที่สุดของโลกออนไลน์เลยก็คือ "การโอนเงินไปให้คนที่เราไม่รู้จัก" 
2.Facebook Fan Page เป็นอีกหนึ่งของฟรีที่แถมมากับเพสบุค ซึ่งส่วนมากเจ้าแฟนเพจนี่แหละก็กลายมาเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญในการขายสินค้าเลย ซึ่งสามารถทำได้ทั้งแบบฟรีและการเสียเงินลงโฆษณา
3.กลุ่มต่างๆใน Facebook เป็นอีกตัวเลือกที่เราสามารถเลือกโพสประกาศหรือขายสินค้าตามกลุ่มต่างๆได้ฟรีโดยที่เราไม่ต้องลงทุนโฆษณาเพียงแต่ลงแรงในการโพสอย่างเดียว
วิธีแก้ไขปัญหา+เพิ่มความน่าเชื่อถือบน Facebook
1.รูปโปรไฟล์ต้องเป็นรูปจริงของเรา เป็น คน มีตัวตนอยู่จริงๆ ไม่ใช่เอารูปหมา รูปแมว มาใส่แบบนั้นอันนี้ผมมักเรียกว่า เฟสบุคยอดมนุษย์
2.ต้องโพสเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ ดูไม่เป็นการสแปมเฟสบุคทามไลน์ตัวเอง ผมเห็นเพื่อนๆบางคนพอโพสขายสินค้าปุ๊บก็สแปมหน้าทามไลน์เฟสบุคตัวเองแหลกเลย จนลูกค้ามองว่าเฟสเรากลายเป็นเฟสขยะไปเลย
3.ความสม่ำเสมอ หากเพื่อนๆจะประสบความสำเร็จในการขายสินค้าออนไลน์ สิ่งแรกที่เพื่อนๆจะต้องท่องให้ได้เลยคือ 1.อดทนลงมือทำ 2.ประคองทัศนคติให้ได้ ห้ามเลิกหรือหยุดเด็ดขาด!
4.รีวิวสำคัญมาก ยิ่งสินค้าของเพื่อนๆมีคนมาช่วยรีวิวเท่าไหร่ มันจะยิ่งสร้างความหน้าเชื่อถือมากเท่านั้น และที่สำคัญถ้าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงมาช่วยรีวิวด้วยล่ะก็ยิ่งน่าเชื่อถือคูณสองไปเลย
5.ถ้าสินค้าดีจริง อย่าไปกลัวว่ามันจะขายไม่ได้ เพราะฉะนั้นตั้งคำถามกลับมาหาตัวเราเองก่อนว่า "เห้ยสินค้าเราดีจริงหรือปล่าวว่ะ?" จำเอาไว้ว่าไม่มีใครไม่อยากได้ของที่ดีที่สุดหรอกครับ
6.สร้างภาพให้ดูขายดีตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการรีวิวสินค้าเอง การเอาหลักฐานการโอนของลูกค้ามาโพส การเอารูปสินค้าที่ลูกค้าได้รับแล้วถ่ายส่งมาให้มาโพสว่าได้สินค้าจริงจากทางร้าน จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับร้านเราอย่างมากว่าซื้อของแล้วได้ของแน่นอนครับ
7.สร้างตัวแทน ขายแบบทวีคูณ ยิ่งเราขายดีเท่าไหร่จะยิ่งมีคนมาขอเป็นตัวแทนขายเท่านั้น พยายามสร้างระบบตัวแทนขายให้ได้แล้วเราจะไม่ต้องเหนื่อย เราจะเหนื่อยแค่ช่วงแรกแต่เมื่อเรามีตัวแทนมากๆแล้วยอดขายจะไหลมาเทมา
8.สร้างแบรนด์ให้ติดตลาด เมื่อเพื่อนๆทำตามที่ผม กล่าวมาทั้ง 7 ข้อแล้วสิ่งที่เพื่อนๆจะเริ่มได้คือ "แบรนด์" และผมบอกเลยว่าตัวแปลสำคัญที่จะช่วยให้เพื่อนๆไม่ต้องลงทุนลงโฆษณา facebook เลยก็คือแบรนด์นี่แหละครับ ถ้าวันนี้แบรนด์เราแข็งจริง สิ่งที่เราไม่ต้องกลัวเลยก็คือเรื่องของราคา เพราะแพงแค่ไหนคนก็ซื้อครับ










ทำงานออนไลน์อยู่ที่บ้าน รายได้ของคนยุคปัจจุบัน


ต้องยอมรับจริงๆนะครับสำหรับงานออนไลน์ต่างๆที่มีให้เลือกจนดูไม่หมดกันเลยทีเดียว ซึ่งในปัจจุบันนี้คนที่หันมาทำงานออนไลน์กันส่วนใหญ่ก็มีปัจจัยหลายๆอย่างที่เหมือนกันถึงได้เลือกที่จะหางานออนไลน์ ที่ทำแล้วได้เงินจริงๆ รายได้ดีๆ ทำง่ายๆ และถ้ายิ่งไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรเลยก็ยิ่งดีแต่ส่วนใหญ่รูปแบบการทำงานก็จะคล้ายๆกัน แต่แตกต่างกันตรงที่รูปแบบการทำงานที่ประยุกต์ให้เป็นของตนเองสะมากกว่าครับ
(โฆษณาประชาสัมพันธ์ : อาชีพเสริม Join&Coin อาชีพเสริม อาชีพอิสระ ที่ทำง่าย ได้เงินจริง รับรองผลจากคนที่ทำแล้ว "รวยจริง" ได้ที่นี่)
งานในปัจจุบันนี้ก็หายากขึ้นเรื่อยๆ และแต่ละปีก็มีนักศึกษาจบใหม่มาเรื่อยๆ เพื่อที่ตัวเองจะได้ทำงานที่มีรายได้มั่นคง และตรงตามที่ตัวเองได้เล่าเรียนมาหลายปี ( ซึ่งส่วนใหญ่คนในยุคปัจจุบันหันมาจับธุรกิจส่วนตัวกันแล้ว )
รูปแบบของงานในตอนนี้ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ถ้าเวลาการทำงานสบาย เงินเดือนที่ได้ก็จะสมส่วนกับเวลาที่เราได้ทำไป แต่ถ้าเงินเดือนที่เราได้ต่อเดือนสูง การทำงานของเราก็ต้องเข้มข้นขึ้นตามจำนวนเงินที่เราได้รับไปด้วยครับ ต้องอยู่ในภาวะที่เราเหมือนยืนอยู่บนเส้นด้าย ถ้าดีก็ดีต่อไป แต่ถ้าแย่ก็ตกต่ำลงไปเรื่อยๆ 
มาเข้าประเด็นกันเลยดีกว่าครับ ซึ่งงานออนไลน์ ที่สามารถทำอยู่กับบ้านได้นั้น ไม่ใช่ทุกคนจะทำแล้วได้ดี หรือประสบความสำเร็จกันทุกคนหรอกนะครับ ซึ่งคนเหล่านี้ก็ต้องมีความรู้พื้นฐานบ้างอยู่แล้ว และถ้าจะทำจริงๆก็ควรหาความรู้เพิ่มเติมจากแหล่งต่างๆบนโลกออนไลน์ใบนี้เช่นกันนะครับ พยายามอย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ ถ้าไม่ได้ศึกษางานเหล่านั้นอย่างจริงจัง โปรดใช้เวลาในการตัดสินใจพอเหมาะพอควรนะครับ อย่ารีบร้อนเพราะเห็นคำเชิญชวนหรือรูปภาพเงินทองมากมายที่เขาได้ แล้วยอมทำทุกอย่างที่เขาบอกให้ทำเพื่อที่จะได้สิ่งเหล่านั้นที่เขาเกิ่นมา
งานออนไลน์บางงานไม่จำเป็นต้องมีตัวช่วยมากมาย แต่สามารถทำเงินกับงานนี้ได้จริง ( ซึ่งจะเป็นงานออนไลน์ประเภทอะไร ) ก็รองค้นหากันเองนะครับ โปรดอย่าเชื่อคนง่ายถ้าเราไม่ได้ลองศึกษาอย่างลึกซึ้งด้วยตัวของเราเองนะครับ และจงหางานออนไลน์ที่เรารู้สึกว่าเราชอบงานแบบนี้จริงๆ อย่าเลือกงานออนไลน์ที่ได้เงินเยอะจริง แต่เป็นรูปแบบที่เราไม่ถนัดเอาเสียเลย อันนี้ก็จะเป็นผลเสียต่อตัวเราในอนาคตได้ครับ
ระดับอายุของคนที่เริ่มทำงานออนไลน์ ปัจจุบันนี้ก็มีอายุที่น้อยลงเรื่อยๆ ( ถือว่าเด็กบางกลุ่มก็มีความต้องการมีรายได้เสริมของตัวเองได้ง่ายๆจากที่บ้านครับ ) เพราะงานพวกนี้เน้นความรัก ความชอบ และอดทนต่อการทำงานเป็นหลักเลยครับ ถ้ามีทุกส่วนหลักๆที่กล่าวมาข้างต้นนี้แล้ว คุณเองก็สามารถทำงานออนไลน์ด้วยตัวเองที่บ้าน หรือที่ไหนๆได้สบายๆครับ ส่วนรายได้ที่จะได้มาจากการทำงานออนไลน์นั้น ถ้าบริษัทนั้นๆเขาให้เงินจริง คุณจะได้รายได้เยอะก็อยู่ที่ตัวคุณเองแล้วครับ ว่าสามารถตีโจทย์หรือเข้าใจแนวการทำงานของบริษัทนั้นได้ดีแค่ไหนครับ
บทความนี้อาจจะมีเนื้อหาที่ไม่มากมายนักนะครับ เพราะเน้นความเข้าใจที่ง่ายต่อทุกคนครับ ซึ่งสุดท้ายนี้ถ้าคิดจะทำงานออนไลน์จริงๆจังๆ กรุณาอย่ารอโอกาสดีๆที่รอคุณอยู่ ... "อย่าเป็นคนเดินช้าเหมือนเต่า จงเป็นคนที่เดินเร็วเหมือนมด เพราะมันมีเป้าหมายและจุดหมายที่เหมือนกัน"


สนใจกรอกข้อมูลศึกษาเพิ่มเติมฟรี...!!!
ลงทะเบียนเพื่อเรียนรู้วิธีการสร้างรายได้ฟรี
Click >>>http://goo.gl/MRu4S7           
________________________________________

FB : https://www.facebook.com/kamphon.printing
FB :http:// www.facebook.com/kamphonsak1
ID Line : goloei1
ID Line : goloei
               http://kamphononlin.bravesites.com           
________________________________________

Tel : 091-6847678, 062-1983180


สมัครศึกษาข้อมูลฟรี

วิธีหางานออนไลน์สำหรับตัวคุณ


เอาใจคอคนที่ชอบทำงานออนไลน์ หรือ หางานออนไลน์กันสักหน่อยในบทความนี้ เพราะเราจะมาบอกวิธีหางานออนไลน์ที่ใช่สำหรับตัวคุณในปี 2016
(โฆษณาประชาสัมพันธ์ : อาชีพเสริม Join&Coin อาชีพเสริม อาชีพอิสระ ที่ทำง่าย ได้เงินจริง รับรองผลจากคนที่ทำแล้ว "รวยจริง" ได้ที่นี่)
การหางานออนไลน์ในปี 2016 เติบโตเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 80 ของทั้งหมด เพราะการที่คนเรามีเทคโนโลยีฯที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้นทุกวัน และการเติบโตขององค์กรธุรกิจในรูปแบบออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นตามความต้องการและความสนใจของคนหมู่มากไม่ใช่เฉพาะคนในประเทศไทยเท่านั้น เป็นกันทุกประเทศทั่วโลกที่มีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเปิดให้ประชาชนในประเทศได้ใช้บริการกัน 

การที่เราจะทำเงินจากงานออนไลน์ที่เราหานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะ "งานที่ทำเงินได้จริงหาได้ยาก" แต่ถ้าจะให้บอกว่างานที่เราทำทางออนไลน์ไม่ว่าจะวิธีไหน ที่ทำแล้วได้เงินจริงมีอยู่จริงไหม? ขอตอบแบบเต็มๆว่า "มี" แต่การเลือกหางานออนไลน์ที่ดีควรทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ก่อนที่ ""จะลงทุน""
1. หาข้อมูลของงานออนไลน์นั้นให้มากๆ
2. หาคนที่ทำงานออนไลน์ตัวนั้นอยู่ แล้วติดตามเขา ไม่ใช่สอบถาม เพราะถ้าถาม "เขาจะชวนให้คุณทำ"
3. ฟังหูไว้หู
4. ศึกษาพฤติกรรมการทำงานของตัวเอง ว่าสามารถเข้ากับระบบงานของธุรกิจออนไลน์นั้นๆได้หรือเปล่า
5. งานออนไลน์ทุกงานจะมีคนประสบความสำเร็จจากงานนั้นๆมีแค่  30-40% เท่านั้น นอกนั้นคงรู้กันดีว่าจบ!!ยังไง
6. งานออนไลน์ก็เหมือนการลงทุน ถ้าคิดว่าลงทุนไปแล้วไม่คืนกำไรหรือทุน ก็เก็บไว้เลี้ยงปากท้องตัวเองไปก่อนจะดีกว่า ( เพราะการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ )
7. ทุกวันนี้งานออนไลน์คือการสร้างคนเพื่อสร้างเงิน หรือการขายของเพื่อสร้างเงิน ...คิดก่อนว่าเก่งทั้ง 2 อย่างนี้หรือเปล่า!!
8. คุณคิดก่อนว่าคุณจะมีสิ่งเหล่านี้ตลอดไปหรือไม่ "มุ่งมั่น"  "ตั้งใจ"  "อดทน" "เข้มแข็ง"
9. เดินมาแล้วต้องเดินให้สุด เพราะเมื่อไหร่ที่คิดจะ "ถอยหลัง" เพียงแค่ครั้งเดียว ...."มันจะมีครั้งต่อไป"
10. อย่าใจกล้าทำอะไรเกินตัวเพราะงานออนไลน์ที่คุณเลือก มันไม่ใช่ของคุณเพียงคนเดียว !! ยึดหลักตามเขาเรารอด อย่าแตกแถว **งานออนไลน์แม้จะเป็นงานสบายทำได้ที่บ้าน แต่เป็นงานที่ต้องใช้สมองคิดอยู่ตลอดเวลาที่คุณตื่น แม้จะมีระบบคอยรองรับ แต่มันก็เป็นแค่ระบบที่คอยเดินไปข้างหน้า แต่คุณเองเป็นคนสร้างทางให้ "ระบบมันเดินได้ถูกทาง"** // บอกขนาดนี้แล้่วคงเข้าใจ
แถมอีกนิด!! คิดจะเป็นเหมือนเขา คิดจะประสบความสำเร็จเหมือนเขา ... "แค่คุณ คิด-ทำ-รู้สึก-ปฎิบัติ" ตามเขาคนนั้นก็เพียงพอ
งานออนไลน์แม้จะเป็นงานที่เสี่ยงต่อการล้มเหลวถึง 80% เพราะข้อมูลบนโลกออนไลน์มีทั้งหลอกลวงและความจริง ผสมกันปนเปไปหมด เราเป็นคนเล่นคนหาข้อมูลหรือ หางานออนไลน์ ก็ต้องมีการใช้สิทธิของตัวเองให้คุ้มค่า อย่าหลงเชื่ออะไรง่ายเกินไปถ้าคุณ """""ยังไม่รู้จริง"""""

สนใจกรอกข้อมูลศึกษาเพิ่มเติมฟรี...!!!
ลงทะเบียนเพื่อเรียนรู้วิธีการสร้างรายได้ฟรี
Click >>>http://goo.gl/MRu4S7           
________________________________________

FB : https://www.facebook.com/kamphon.printing
FB :http:// www.facebook.com/kamphonsak1
ID Line : goloei1
ID Line : goloei
               http://kamphononlin.bravesites.com           
________________________________________
Tel : 091-6847678, 062-1983180

ทำไมเราต้องทำอาชีพเสริม

ทำไมเราต้องทำอาชีพเสริม



เพราะอะไรเราจึงต้องทำ อาชีพเสริม เหรอครับ ??เป็นคำถามที่สุดจะ คลาสสิค มาก ผมจะตอบให้ สั้นๆ แต่ได้ใจความก็ได้ว่า เพราะทุกวันนี้ เงินเดือนที่กินอยู่ทุกเดือนมันไม่พอกินไม่พอใช้ยังไงล่ะครับ เหตุผลทำไมเหรอ?? ก็เพราะทุกวันนี้ เรายังใช้วิธีการหาเงินแบบเดิมๆ อยู่คือการเป็นลูกจ้างไงล่ะครับคุณเคยสงสัยอีกไหมล่ะว่าทำไมเป็นลูกจ้างแล้วมันไม่รวยสักทีผมก็จะบอกว่าถ้าเป็นสมัย 10-20 ปี ก่อน คุณอาจจะรวยจากการเป็นลูกจ้างเพราะสมัยก่อน ทอง บาทล่ะ 4000 บาท คิดตามนะครับ แต่เราจบ ปริญญาตรีมาได้เงินเดือนเดือนล่ะ 8000บาท แสดงว่าจบมาก็ซื้อทองได้เดือนล่ะ 2 บาทถูกไหมครับ ทองคำวัดอะไรเหรอครับ สมัยก่อน ประเทศไหนมีทองคำสำรองเก็บไว้เยอะเค้าถือว่าประเทศนั้นร่ำรวยครับ ทุกวันนี้ก็เช่นกันครับใครมี ทอง เยอะเป็นเครื่องแสดงว่าบุคคลนั้นเป็นผู้มีฐานะหรือมีเงิน นั่นเอง แล้วทุกวันนี้เกิดอะไรกับการหาเงินแบบเดิมๆตอบง่ายๆก็เพราะเดี๋ยวนี้จบปริญญาตรีมาเงินเดือน เดือนล่ะ 10000-15000บาท แต่ทองคำราคาพุ่งไปที่  25000 บาท จบมายังซื้อทองไม่ได้สักบาทถูกไหมครับ เหมือนเมื่อสมัย 10-20ปีก่อนราคาน้ำมันลิตรล่ะ 6 บาทเดี๋ยวนี้ลิตรล่ะ 40บาท ข้าวสมัยก่อนจานล่ะ 5-10บาท เดี๋ยวนี้จานล่ะ 40-60 บาท เห็นรึยังครับว่าเดี๋ยวนี้ของรอบตัวเรามันแพงขึ้น 5-6 เท่า!!แต่เงินเดือนที่เราได้มากลับเพิ่มมาไม่กี่ พัน บาท ถ้าคุณยังใช้วิธีการหาเงินแบบเดิมๆอยู่ผมกล้ารับรองเลยว่าคุณ อดตาย!! แน่นอน ครับ นี่แหละจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเราต้องมองหา อาชีพเสริม ทำ!!

ทำไมต้องทำธุรกิจ??


แต่  เอ๊ะ !! อาชีพเสริม ก็มีอยู่มากมายแต่ทำไมเราต้องมาทำธุรกิจด้วย??เป็นคำถามที่ชวนสงสัยอีกแล้วใช่ไหมครับ ก็เพราะผมเคยถามตัวเองว่า ถ้าผมอยากได้เงินเดือนเดือนล่ะ 100000 บาทผมต้องทำอาชีพอะไร ผมมองไปที่พ่อกับแม่ผมรับราชการมา 25 ปี เป็นถึงข้าราชการระดับ C8 นะครับ แต่ได้เงินเดือนเดือนล่ะ40000-50000บาทเอง ครับท่านก็ลองคิดดูก็แล้วกัน แต่ พ่อของเพื่อนผมทำธุรกิจค้าขายได้กำไรเดือนล่ะเป็นแสนๆบาท บางเดือนเป็นล้านๆนั่นแหละครับธุรกิจที่ผมเสาะหามานานคือการทำธุรกิจ..

ทำไมต้องทำเครือข่าย??


แต่พอรู้แล้วผมก็มองมาที่ธุรกิจอีกว่าถ้าทำแล้วเราควรจะทำธุรกิจอะไรดีครับ ตอนนั้น ผมก็มองหาธุรกิจเครือข่ายที่ดีทำ เพราะผมรู้ว่าคนรวยเขาทำเครือข่าย กันครับ นั่นไงผมเริ่มมีคำถามเข้ามาในหัวอีกว่าทำไมพวกคุณๆท่านๆทั้งหลายเรียน จบปริญญามาสูงส่ง แต่กลับได้เงินเดือนแค่เดือนล่ะครั้งคุณเคยคิดไหมครับ ว่าทำไม??  แต่ทำไมคนที่ทำเครือข่ายกลับมี รายได้เป็น วินาที หรือต่อชั่วโมง หรือ ต่อวัน!! ผมยกตัวอย่างง่ายๆ ก็ 7-11 เรานี่แหละครับมี 7000สาขาทั่วประเทศ เป็นเครือข่ายไหม  เป็นครับ เปิด 24 ชั่วโมงมีคนเข้าตลอดได้เงินเป็นวินาทีแน่นอนครับ ธุรกิจเครือข่ายคือธุรกิจที่ทำเพื่อหยุดทำครับ !! เออ..น่าคิดเนอะหยุดทำแล้วทำไมมันได้เงิน คุณลองสังเกตุนะครับทุก วันนี้ คุณ กินเบียร์ กินเหล้า ทุกวันใช่ไหมครับ เจ้าของเขาเคยมาขายคุณไหมครับ ไม่เคยครับ แต่เจ้าของเขาอาจจะไปอาบแดด  ที่ ฮาวาย ไปล่องเรือยอร์ช ที่ต่างประเทศ แต่ เงิน ก็ยังเข้ากระเป๋าเขาทุกวันนี่แหละครับความสวยงามของเครือข่ายมีสาขาไว้ทำงานแทนเรา จำเอาไว้นะครับ คนรวย ใช้เงินต่อเงินครับ..

แล้วทำไมผมต้องทำธุรกิจเครือข่ายกับคุณ?


มีคนถามคำถามนี้กับผมเยอะมากครับ จนผมตอบแทบไม่ไหว แต่วันนี้ผมจะมาตอบกันให้กระจ่างไปเลย เพราะทุกวันนี้อะไรที่อยู่รอบตัวเราก็เป็นเครือข่ายไปหมด โทรศัพท์มือถือ Face Book ที่เราเล่นกันทุกวัน 7-11  ที่เราเดินเข้ากันทุกวัน google ที่พวกคุณๆทั้งหลายใช้หาข้อมูลกันทุกวันก็ล้วนแต่เป็น เครือข่าย ทั้งสิ้น แต่ผมขอถามคำถามหนึ่งกับพวกคุณ นะครับว่า พวกคุณมีเงินเป็น พัน เป็น หมื่นล้านแล้วเหรอครับ พร้อมที่จะลงทุนแล้วเหรอครับ นั่นไง อ่ะ!!! ผมลดลงมาหน่อยนึง 7-11 แล้วกัน ใช้เงินลุงทุนประมาณ 6 ล้าน คุณมีแล้วหรือยัง?? หรือถ้ามีแล้วคุณพร้อมที่จะเสี่ยงหรือยังครับ?? นี่แหละครับเหตุผลที่พวกคุณควรมาทำธุรกิจเครือข่ายกับผม เพราะอะไร?? มันลงทุนน้อยไง แต่ได้ผลกำไรตอบแทนมากมายมหาศาล แล้วก็จะมีคำถาม ถามผมกลับมาอีกว่า พี่ครับๆ เสี่ยงไหมถ้าผมจะลงทุนกับพี่ ผมก็จะบอกเลยครับว่า น้องคิดว่า คนที่ลงทุน ไม่กี่ ร้อย ไม่กี่ พัน ไม่กี่ หมื่น กับคนที่เขาเป็นเจ้าของแต่ลงทุนไปเป็น พัน เป็น หมื่นล้าน น้องคิดว่าใครเสี่ยงกว่ากัน แล้ว น้องคิดไหมว่า คนที่ลงทุนไม่กี่ ร้อย ไม่กี่ พัน ไม่กี่ หมื่น กับคนที่ลงทุนไปเป็น พัน เป็นหมื่นล้าน ใครอยากเจ้งมากกว่ากัน นั่นแหละคือคำตอบของความเสี่ยงที่คุณถามผมมาครับ ผมขอฝากทิ้งท้ายไว้หน่อยหนึ่งว่า การที่คุณทำงานประจำ หรือ เป็นลูกจ้าง มันก็ไม่ต่างอะไรกับการที่คุณไปปลูก ต้นแอปเปิ้ลในที่ของคนอื่นหรอกครับคุณ รด น้ำ พรวนดินมันมากับมือ แต่พออยากกิน ผล แอปเปิ้ล คุณยังต้องเสียเงินซื้อเลย ก็เหมือน งานประจำที่คุณทำ ทำงานมา 10 ปี บริษัทก็ไม่ใช่ของคุณหรอกครับโอนไปให้ลูกให้หลานก็ไม่ได้...

ความแตกต่างระหว่างแชร์ลูกโซ่ กับธุรกิจเครือข่าย

เครื่อข่ายแตกต่างจากลูกโซ่ยังไง??

ผมคิดว่าหลายๆคนเคยสงสัยเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่าง เครือข่าย กับ ลูกโซ่ ว่ามันต่างกันยังไงใช่ไหมล่ะครับ เอาหลักการทั่วไปก่อนนะครับ จริงๆแล้วมีวิธีการในการ กระจายสินค้าอยู่ 3 วิธีด้วยกันคือ...

1).การขายปลีก : ผมมั่นใจว่าทุกท่านเคยได้ยินคำนี้การขายปลีกก็คือเรารับสินค้ามาในราคาทุนหรือต่ำกว่าแล้วมาขายต่อเอากำไร ยกตัวอย่าง ร้านค้า ร้านของชำ ร้านขายยา ห้างสรรพสินค้า เป็นต้นครับ...

2).การขายตรง : คำนี้ก็เป็นอีกคำ ยอดฮิต ที่ปากคนไทยมาก ขายตรงคือการรับของมาแล้วขายไปเช่นวันนี้ไปรับเครื่องสำอางมาขาย ยกตัวอย่างเช่น สาวมิสทีน การขายประกัน เครื่องครัว ฯลฯ เป็นต้นครับ...

3).การตลาดแบบเครื่อข่าย : เป็นการตลาดแนวใหม่ที่นิยมใช้ในปัจจุบันมากๆ การตลาดแบบเครือข่าย คือการสร้างเครือข่ายผู้บริโภคให้ซื้อกิน ซื้อใช้ ซื้อซ้ำ เป็นการกระจายสินค้าได้อย่างรวดเร็วมาก ซื้อกิน ซื้อใช้ดีแล้วบอกต่อปัจจุบัน การตลาดแบบเครือข่ายเป็นการตลาดที่ถูกต้องตามกฏหมาย การตราดแบบเครือข่าย จะเปรียบเสมือนกับ ปิรามิด คว่ำซึ่งมันก็คือการเริ่มต้นจากคนข้างล่างแต่แตกขยายออกไปข้างบนมากมายหรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ธุรกิจ 1 แตก 2 นั่นเอง..แต่คนส่วนใหญ่มักคิดว่ามันคือแชร์ลูกโซ่ซึ่งผมจะอธิบายในหัวข้อต่อไป

                                                                       แชร์ลูกโซ่คืออะไร??

                                                         
แชร์ลูกโซ่คืออะไร หลายคนสงสัยมานานผมจะมาอธิบายในหัวข้อนี้ แชร์ลูกโซ่คือ ปิรามิดหงาย มันก็คือธุรกิจที่ มีคนที่อยู่ บนสุด เพียงคนเดียวเท่านั้นแล้วแตกลงมาด้านล่างซึ่งคนที่เริ่มต้นเท่านั้นที่จะสามารถขึ้นสู่ตำแหน่งสูงที่สุดได้ ซึ่งตามกฏหมายแล้ว แชร์ลูกโซ่ถือเป็นธุรกิจที่ผิดกฏหมาย ซึ่งแชร์ลูกโซ่สามารถใช้คำว่าเครือข่ายได้ แต่ไม่สามารถใช้คำว่า การตลาดได้!!! เพราะไม่มีการเคลื่อไหวของสินค้า หรือ บริการนั่นเองครับ..

                                           ความแตกต่างระหว่างแชร์ลูกโซ่และเครือข่าย?
                                                                          

ในหัวข้อนี้ผมจะอธิบายให้ทุกท่านเข้าใจง่ายๆคือ แชร์ลูกโซ่แซงกันไม่ได้ แต่ เครือข่ายแซงกันได้ครับ เพราะอะไรนะเหรอ ถ้าเทียบกันแล้ว แชร์ลูกโซ่ก็เปรียบเสมือน โรงเรียนหนึ่งโรงเรียนที่ มี ผู้อำนวยการ เพียงคนเดียวซึ่งผมถามว่าในโรงเรียนนั้นมีใครใหญ่กว่า ผู้อำนวยการ ไหมครับคำตอบคือ ไม่มีครับ แล้วถ้าเราอยากขึ้นเป็น ผู้อำนวยการล่ะต้องทำยังไงครับ ก็ต้องรอ ผู้อำนวยการคนเก่า ตาย หรือ เกษียณอายุก่อน ถ้าเขา ตาย หรือ เกษียณ แล้วล่ะจะเป็นเราที่ได้ขึ้นตำแหน่งไหม ก็ยังไม่ใช่อยู่ดีหรืออีกตัวอย่างหนึ่งง่ายๆคือถ้าเรา ขี่รถจักยาน ถ้าโซ่หลังมันแซงโซ่หน้าได้ผลออกที่มาคืออะไรครับ ก็โซ่ขาดไงครับ นี่แหละครับแชร์ลูกโซ่แซงกันไม่ได้มีคนที่อยู่บนสุดเพียงคนเดียว แล้วเครือข่ายแซงกันได้ยังไง เครือข่ายก็เปรียบเสมือนเราไปชวนเพื่อนมาเป็นซ้ายเป็นขวาเรา 2 คน คิดตามนะครับ แต่ไอเพื่อนเราที่อยู่ด้านซ้าย มันขยันมาก หาคนมาต่อซ้ายต่อขวามันเหมือนกัน แต่ เรากับไอเพื่อนที่อยู่ด้านขวา ดันขี้เกียจ ไม่ทำงานเลยเอาแต่นอนเที่ยวเล่น เพื่อนที่อยู่ด้านซ้ายเรามันก็มีใต้องค์กรมันเยอะขึ้นๆ กลายเป็นว่า คุณโตแค่ข้างเดียวส่วนด้านขวาไม่ทำงานเนี่ยแหละครับ แซงกันไปแล้วคุณเห็นถึงความต่างของแชร์ลูกโซ่ และ ธุรกิจแบบเครือข่ายหรือยังล่ะครับ...

ธุรกิจออนไลน์ บทความออนไลน์ งานออนไลน์

เคล็ดลับความสำเร็จใน ธุรกิจออนไลน์ 

เทคนิคการทำการตลาดด้วยบทความ




สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่น่ารักทุกคน วันนี้ผมจะมาสอนเทคนิคการเขียนบทความอย่างไรให้ถูกวิธี เขียนอย่างไรแล้วดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาอ่านบทความของเรา บทความนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่เขียนเว็บ Blog หรือ wordpress ที่ต้องการทำการตลาดออนไลน์ด้วยบทความ แต่ไม่รู้ว่าบทความที่ดีนั้นควรเขียนอย่างไร แล้วเนื้อหาควรมีลักษณะเช่นไร โดยการเขียนบทความนั้นผมจะแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1.ส่วบทนำ 2.ส่วนเนื้อหา 3.สรุป นะครับที่สำคัญก่อนจะเขียนเราต้องคิดหัวข้อที่เราจะเขียนก่อนว่าเราจะเขียนเกี่ยวกับอะไรถ้านึกไม่ออกให้นึกถึงจุดประสงค์ที่เราสร้าง Blog หรือ wordpress นี้ขึ้นมาว่าเราสร้างมาเพื่ออะไรส่วนตัวผมนั้นสร้างเว็บไซต์นี้ขึ้นมาเพื่อให้คนที่ต้องการ มีอาชีพเสริม หรือ รายได้เสริม ครับงั้นเรามาเริ่มเขียนกันเลย
ส่วนแรก เกริ่นนำ

ในส่วนการเกริ่นนำนี้ให้เราเขียนเกี่ยวกับหัวข้อที่เราจะเขียนเช่น เราเขียนเกี่ยวกับการท่องเที่ยวก็ให้เกริ่นนำไปก่อน เช่น สวัสดีครับวันนี้กลับมาเจอกันอีกแล้ววันนี้ผมจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเพชรบุรีเป็นต้นครับเพราะที่ผมแบ่งบทความเป็น 3 ส่วนนัั้นมันตรงตามหลักการเก็บข้อมูล SEO ของ google พอดีครับยิ่งบทความเรามีเนื้อหาดีเขียนถูกต้องตามหลัก google จะชอบมากครับและส่งผลให้บทความหรือเว็บไซต์เราติดอันดับดีๆด้วยครับในส่วนการเกริ่นนำให้เขียนไปคร่าวๆนะครับไม่ต้องลงรายละเอียดเกี่ยวกับหัวข้อที่เรากำลังจะเขียนมากๆครับ
ส่วนที่สอง เนื้อหา

ในส่วนของเนื้อหานี้ให้เราเขียนเกี่ยวกับสิ่งที่เราต้องการจะสื่อให้ผู้อ่านได้รับรู้เลยครับ ยกตัวอย่างเช่น ผมทำเว็บเกี่ยวกับ อาชีพเสริม ผมก็เจะเขียนบทความที่เกี่ยวข้องกับ อาชีพเสริมที่ผมทำว่ามันเกี่ยวข้องกับอะไร แล้วเริ่มต้นอย่างไรมีรายได้เท่าไหร่วิธีการเขียนเนื้อหาของบทความนั้นไม่ยากหรอกครับให้เราพรรณณาตามสิ่งที่เรานึกคิดและเมื่ออ่านแล้วมันมีประโยชน์กับผู้อ่านด้วยครับและบทความที่เขียนควรมาจากแก่นความรู้จริงๆด้วยครับเพื่อไม่ให้ผู้อ่านรับข้อมูลที่ผิดๆและเข้าใจผิดตามเนื้อหาของบทความที่เราเขียนครับ
ส่วนที่สาม สรุป

ในส่วนนี้ก็เป็นส่วนปิดท้ายเมื่อเราเขียนบทความเสร็จแล้วนะครับ เป็นการสรุปเนื้อหาที่เราเขียนมาทั้งหมดว่าเกี่ยวข้องกับอะไรแล้วมีประโยชน์อย่างหรืออาจะเป็นการแทรกข้อคิดเล็กๆน้อยๆเพื่อเป็นการทิ้งท้ายเพื่อให้ผู้อ่านได้แง่คิดหรือมุมมองเกี่ยวกับหัวข้อที่เราได้เขียนครับหรืออาจะเป็นการกล่าวขอบคุณที่ผู้อ่านตั้งใจอ่านบทความของเราตั้งแต่ต้นจนจบซึ่งแสดงถึงการมีมารยาทในการเขียนบทความครับ
สรุป

เป็นอย่างไรบ้างครับการเขียนบทความคงไม่ยากเกินไปสำหรับพวกเราใช่ไหมครับ ผมหวังว่าเทคนิคเหล่านี้คงมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังทำการตลาดออนไลน์อยู่นะครับคงจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยเพราะมันจะทำให้เราสมารถเพิ่มยอดคนเข้าชมเว็บไซต์เราได้เป็นอย่างดีและถ้าเว็บไซต์เราออกแบบมาดี เนื้อหาดี มีลิงค์ย้อนกลับที่ดี ด้วยแล้วผมเชื่อว่า อันดับในการทำ SEO คงดีตามไปด้วยครับ เพราะเราทำตามหลักที่ google ชอบมากๆเลยครับและที่สำคัญที่ผมอยากเตือนหลายๆคนนะครับการเขียนบทความนั้นให้เขียนเองอย่าไป copy บทความของคนอื่นมานะครับเพราะมันจะทำให้ เว็บไซต์ของเราอันดับไม่ดีครับเนื่องจาก google สามารถตรวจสอบได้ว่าเว็บไซต์ไหน copy เนื้อหากันบ้างครับ สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณท่านผู้อ่านที่ตั้งใจอ่านบทความนี้ของผมครับ

Elit-ssc